วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา


ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
                กระบวนการโลกาภิวัฒน์ สร้างความเปลี่ยนแปลงที่กว้างขวางและรวดเร็ว ทำให้สถานการณ์แข่งขันทางการค้าเข้มข้นขึ้น ส่งผลกระทบต่อนโยบายทางการค้าของทุกประเทศที่จะต้องมีการปรับตัวที่รวดเร็ว ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางการค้าระหว่างกัน
                ประเทศไทยเริ่มทำการค้ากับจีน(ตอนใต้)โดยเฉพาะมณฑลยูนนานมาตั้งแต่อดีตแต่ปรากฏสถิติข้อมูลการค้าชายแดนอย่างเป็นทางการผ่านด่านเชียงแสน จังหวัดเชียงรายครั้งแรกในปี2535 โดยเป็นการส่งออกรถจักรยานยนต์เก่าจากไทยไปจีน(ตอนใต้)มูลค่าการส่งออกเพียง 178,800 บาท ขณะที่ไม่มีการนำเข้า อย่างไรก็ตามการค้าได้เพิ่มขึ้นเป็น 428 ล้านบาทในปี 2537, 113.5 ล้านบาทในปีที่ 2538 และ 215.4 ล้านบาทในปี 2539 ถึงแม้ในปี 2540 มูลค่าทางการค้าจะลดลงบ้างแต่ได้ขยายตัวขึ้นมาในช่วงปี 2541-2544 เนื่องจากประเทศจีนดำเนินโยบายเปิดประเทศมากขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจจีนมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเพิ่มมากขึ้น จนทำให้มูลค่าการค้าในปี 2546 เพิ่มขึ้นเป็น 416,205 ล้านบาท ในช่วงปี 2535 – 2546 การค้าระหว่างไทยและจีน(ตอนใต้)มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 1,088.4 ล้านบาท ประกอบด้วยการส่งออกเฉลี่ยปีละ 811.8 ล้านบาท และการน้ำเข้าเฉลี่ยปีล่ะ 276.6ล้านบาท โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลมาโดยตลอด ซึ่งตรงข้ามกับสถิติทางจีนเกินดุลไทยมาโดยตลอดทั้งนี้ เบื่อจากการค้าชายแดนไทย-จีน(ตอนใต้) ส่วนหนึ่งยังเป็นการค้านอกระบบ หรือเป็นการค้าผ่านทางสหภาพพม่า และ สปป. ลาว(สำนักงานภาคและสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย 2548-1549 : 72-74 )
                การค้ากับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน(ตอนใต้)เท่ากับ 5,268.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยล่ะ 57.15 โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 3,153.04 ล้านบาท มูลค่าการส่งออกเท่ากับ 4,210.83 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยล่ะ 99.54 มูลค่าการนำเข้าเท่ากับ1,057.79 ล้านบาท ลดลงจาปี 2547 ร้อยล่ะ 14.86
                ในปี 2549 มูลค่าการค้ารวมเท่ากับ 5,278.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 0.20 โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 3,099.37 ล้านบาท มูลค่าการส่งออกเท่ากับ 4,189.14 ล้านบาทลดลงจากปีก่อน ร้อยละ -0.52 มูลค่าการนำเข้าเท่ากับ 1,098,77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 3.02 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น